Keyword คืออะไร

Keyword คือ คำหรือวลีที่ผู้ใช้ค้นหาบน Search Engine เปรียบเสมือนกุญแจที่ใช้ไขประตูสู่ข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการ ซึ่งการใช้คีย์เวิร์ด ที่ถูกต้องบนหน้าเว็บของคุณ ช่วยให้ Search Engine เข้าใจเนื้อหาบนหน้าเว็บของคุณ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาหน้าเว็บของคุณบน Search Engine ได้ง่ายขึ้น

Keyword Research

ประเภทของ Keyword

  • Short-tail Keyword: ประโยคสั้น ๆ ความหมายกว้าง ค้นหามาก แต่มีการแข่งขันสูง
  • Long-tail Keyword: ประโยคยาว ความหมายเฉพาะเจาะจง ค้นหาน้อย แต่มีการแข่งขันต่ำ

เครื่องมือที่ใช้ในการค้นหาคีย์เวิร์ด มีอะไรบ้าง ?

มีเครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดมากมาย เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง ค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันต่ำ

  • Google Keyword Planner: เครื่องมือฟรีจาก Google ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ด ดูปริมาณการค้นหา ดูการแข่งขัน
  • Ahrefs: เครื่องมือ SEO ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ด ดูปริมาณการค้นหา ดูการแข่งขัน ดู Backlink
  • SEMrush: เครื่องมือ SEO ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ด ดูปริมาณการค้นหา ดูการแข่งขัน ดูอันดับเว็บไซต์
  • Keywordtool.io: เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดฟรี ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ดูปริมาณการค้นหา
  • Ubersuggest: เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ดฟรี ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง ดูปริมาณการค้นหา ดูการแข่งขัน
  • Answer the Public: เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด ช่วยให้คุณค้นหาคำถามที่ผู้ใช้ค้นหา ช่วยให้คุณค้นหาคำถามที่ผู้ใช้ค้นหา
  • Soovle: เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดจาก Search Engine ต่างๆ
  • BuzzSumo: เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด ช่วยให้คุณค้นหาคีย์เวิร์ดที่ได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดีย
เคล็ดลับในการเลือก Keyword

วิธีการเลือกคีย์เวิร์ดแบบมืออาชีพ

1. ระบุเป้าหมาย:

  • กำหนดเป้าหมายของเว็บไซต์ของคุณ ต้องการเพิ่มยอดขาย ต้องการเพิ่มผู้เข้าชม ต้องการสร้างแบรนด์
  • เลือกคีย์เวิร์ดที่สอดคล้องกับเป้าหมาย

2. วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย:

  • เข้าใจกลุ่มเป้าหมายของคุณ พวกเขาค้นหาอะไร พวกเขาใช้ภาษาอย่างไร
  • เลือกคีย์เวิร์ดที่ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย

3. ค้นหาคีย์เวิร์ด:

  • ใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs, SEMrush
  • ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง ค้นหาคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันต่ำ

4. วิเคราะห์คีย์เวิร์ด:

  • ดูปริมาณการค้นหาของคีย์เวิร์ด
  • ดูการแข่งขันของคีย์เวิร์ด
  • ดูความเกี่ยวข้องของคีย์เวิร์ดกับเนื้อหาบนหน้าเว็บของคุณ

5. เลือกคีย์เวิร์ด:

  • เลือกคีย์เวิร์ดที่มีปริมาณการค้นหาสูง
  • เลือกคีย์เวิร์ดที่มีการแข่งขันต่ำ
  • เลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบนหน้าเว็บของคุณ

6. ใช้คีย์เวิร์ด:

  • ใช้คีย์เวิร์ดบน Title Tag
  • ใช้คีย์เวิร์ดบน Meta Description
  • ใช้คีย์เวิร์ดบน Heading Tag
  • ใช้คีย์เวิร์ดบนเนื้อหาของหน้าเว็บ
  • ใช้คีย์เวิร์ดบน URL

7. ติดตามผลลัพธ์:

  • ติดตามผลลัพธ์ของคีย์เวิร์ดของคุณ
  • ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ของคุณตามต้องการ

8. ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ:

  • ปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญ SEO
  • ผู้เชี่ยวชาญ SEO ช่วยให้คุณเลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีบน Search Engine
เคล็ดลับการเลือก Keyword

ตัวอย่างการเลือกคีย์เวิร์ด

  • ธุรกิจของคุณขายรองเท้า
  • เป้าหมายของคุณคือเพิ่มยอดขาย
  • กลุ่มเป้าหมายของคุณคือผู้หญิงวัย 20-30 ปี
  • คุณใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด และค้นหาคีย์เวิร์ด “รองเท้าผู้หญิง”
  • คุณดูผลลัพธ์ และพบว่าคีย์เวิร์ด “รองเท้าผู้หญิง” มีปริมาณการค้นหาสูง แต่มีการแข่งขันสูง
  • คุณเลือกคีย์เวิร์ด “รองเท้าผู้หญิงแฟชั่น” คีย์เวิร์ดนี้มีปริมาณการค้นหาปานกลาง แต่มีการแข่งขันต่ำ
  • คุณใช้คีย์เวิร์ด “รองเท้าผู้หญิงแฟชั่น” บน Title Tag, Meta Description, Heading Tag, เนื้อหาของหน้าเว็บ และ URL

การเลือกคีย์เวิร์ดแบบมืออาชีพ ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีบน Search Engine ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีผู้เข้าชมมากขึ้น ช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ

ประโยชน์ของการเลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง

การเลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกต้องมีประโยชน์มากมายสำหรับเว็บไซต์ของคุณ ดังนี้

  • การเลือกคีย์เวิร์ดที่มีคนค้นหา ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีโอกาสแสดงผลบน Search Engine มากขึ้น
  • ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีผู้เข้าชมมากขึ้น
  • ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมี Conversion Rate สูงขึ้น
  • ช่วยให้แบรนด์ของคุณเป็นที่รู้จัก
  • ช่วยให้คุณประหยัดงบประมาณ
  • ช่วยให้ธุรกิจของคุณมีโอกาสประสบความสำเร็จ

หากคุณกำลังทำเว็บไซต์หรือปรับปรุงเว็บไซต์ของคุณ อย่าลืมให้ความสำคัญกับการเลือกคีย์เวิร์ดที่ถูกต้อง เพราะจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณประสบความสำเร็จได้

Search Intent

จะเลือกคีย์เวิร์ดให้เก่ง ต้องรู้จัก Search Intent

Search Intent หมายถึง เจตนาของผู้ใช้ในการค้นหาข้อมูลบน Search Engine เป็นสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการจะรู้หรือต้องการจะทำ เมื่อพวกเขาค้นหาด้วยคีย์เวิร์ด tertentu

  • Informational: ผู้ใช้ต้องการหาข้อมูล เช่น “ประเทศไทยมีประชากรเท่าไหร่”
  • Transactional: ผู้ใช้ต้องการซื้อสินค้าหรือบริการ เช่น “ซื้อรองเท้าวิ่ง”
  • Navigational: ผู้ใช้ต้องการไปยังเว็บไซต์ tertentu เช่น “facebook”
  • Commercial: ผู้ใช้ต้องการเปรียบเทียบสินค้าหรือบริการ เช่น “iphone vs samsung”

ทำไม Search Intent ถึงสำคัญ ?

Search Intent เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ SEO เพราะช่วยให้ Search Engine เข้าใจว่าผู้ใช้ต้องการอะไร ช่วยให้ Search Engine แสดงผลลัพธ์ที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด

วิธีการวิเคราะห์ Search Intent

  • ดูคีย์เวิร์ด: คีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้ค้นหา บอกใบ้ถึงเจตนาของผู้ใช้
  • ดูบริบท: หน้าเว็บที่ผู้ใช้มาจาก บอกใบ้ถึงเจตนาของผู้ใช้
  • ดูประวัติการค้นหา: ประวัติการค้นหาของผู้ใช้ บอกใบ้ถึงเจตนาของผู้ใช้

ตัวอย่าง

  • ผู้ใช้ค้นหา “สูตรอาหารแกงเขียวหวาน”
  • Search Intent ของผู้ใช้คือ ต้องการหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีทำแกงเขียวหวาน
  • Search Engine แสดงผลลัพธ์ที่เป็นสูตรอาหารแกงเขียวหวาน

การเขียนเนื้อหาที่ตรงกับ Search Intent

การเขียนเนื้อหาที่ตรงกับ Search Intent เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ SEO ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีอันดับที่ดีบน Search Engine ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีผู้เข้าชมมากขึ้น ช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมี Conversion Rate สูงขึ้น

  • เขียนเนื้อหาที่ตรงกับเจตนาของผู้ใช้
  • ตอบคำถามของผู้ใช้
  • ให้ข้อมูลที่ผู้ใช้ต้องการ
  • เขียนเนื้อหาที่ informative persuasive หรือ engaging ขึ้นอยู่กับ Search Intent

หากคุณรู้สึกว่าขั้นตอนเหล่านี้นั้นยากเกินไป Soar Fast Agency เรามีบริการ รับทำ SEO พร้อมทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้าน On-Page, Off-Page, Technical, Digital Marketing ซึ่งทางเราได้เตรียมพร้อมทุกกลยุทธ์เพื่อให้เว็บไซต์ของคุณเติบโตอย่างก้าวกระโดด

ติดต่อเราผ่านช่องทาง Line: https://lin.ee/If9vGQQ

Leave a Comment